สรุปการเปลี่ยนแปลงของ Feature และ API ใน Android 7.1 Nougat (API 25)
บทความนี้เป็นหนึ่งในซีรีย์บันทึกการเปลี่ยนแปลงของฟีเจอร์และ API ในแอนดรอยด์แต่ละเวอร์ชัน สำหรับผู้ที่หลงเข้ามาอ่านคนใดต้องการดูของเวอร์ชันอื่นๆ สามารถกดดูได้จากลิ้งข้างล่างนี้ได้เลย
สารบัญ
- Android 10 (API 29)
- Android 9.0 Pie (API 28)
- Android 8.1 Oreo (API 27)
- Android 8.0 Oreo (API 26)
- Android 7.1 Nougat (API 25)
- Android 7.0 Nougat (API 24)
- Android 6.0 Marshmallow (API 23)
- Android 5.1 Lollipop (API 22)
- Android 5.0 Lollipop (API 21)
- Android 4.4 KitKat (API 19)
System
Enhanced Live Wallpaper Metadata
กำหนด Metadata ให้กับ Live Wallpaper ที่สร้างขึ้นมาได้ เช่น ชื่อ, คำอธิบาย หรือผู้สร้าง รวมไปถึง URL เพื่อแสดงข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม
Storage Manager Intent
เพิ่ม Action ที่ชื่อว่า ACTION_MANAGE_STORAGE
สำหรับ Intent เพื่อเปิดหน้า Free up space ของตัวระบบแอนดรอยด์ สำหรับกรณีที่พื้นที่ในเครื่องไม่พอใช้งานและต้องการให้ผู้ใช้เคลียร์ข้อมูลที่ไม่จำเป็นภายในเครื่อง
Demo User Hint
สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้แอปกำลังทำงานอยู่ใน Demo User หรือไม่ จะได้เพิ่มคำสั่งต่างๆเพื่ออธิบายข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแอพ
VR
Improved VR Thread Scheduling
รองรับการกำหนดให้ Thread ตัวหนึ่งในเครื่องทำงานเป็น VR Thread สำหรับ VR Mode โดยระบบจะให้ Thread ดังกล่าวทำงานให้มากขึ้นเพื่อลด Latency ให้มากที่สุด
User Interface
App Shortcuts
เพิ่ม Shortcut แบบใหม่ที่เรียกว่า App Shortcuts เพื่อให้สามารถใช้งานแอปบางอย่างได้ทันทีเพียงแค่กดค้างที่ไอคอนแอปแล้วเลือกคำสั่งที่ต้องการ
Round Icon Resources
เพิ่มการแสดงไอคอนแบบวงกลม เพื่อรองรับการแสดงผลไอคอนในบางอุปกรณ์ที่ต้องการแสดงไอคอนแอปในเครื่องเป็นวงกลมทั้งหมด แต่ยังรองรับการแสดงผลไอคอนแบบปกติในบางรุ่น
User Input
Image Keyboard Support
เพิ่ม Commit Content API เพื่อรองรับการใส่ภาพหรือ Rich Content จากคีย์บอร์ดลงใน Text Input ภายในแอป ซึ่ง API ดังกล่าวจะเป็น Backward Compatible ด้วย โดยอยู่ใน v13 Support Library
New Professional Emoji
เพิ่มความหลากหลายของ Emoji ให้มากขึ้นในแง่ของเพศและสีผิว
Wireless & Connectivity
APIs for Carriers and Calling Apps
มีการเพิ่มคำสั่งใน Telephon API เพื่อรองรับการทำงานสำหรับแอปของผู้ให้บริการเครือข่ายและโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นการโทรแบบ Multi-endpoint, การกำหนดค่าความเป็นส่วนตัวสำหรับ CDMA Voice หรือการกำหนดค่าต่างๆของผู้ให้บริการสำหรับ Video Telephony
Wear
New Screen Densities for Wear Devices
เพิ่ม Screen Density เพื่อรองรับกับอุปกรณ์ของ Android Wear โดยจะมี 260, 300 และ 340
สรุป
ก็ต้องยอมรับว่าในแต่ละเวอร์ชันก็มีอะไรเพิ่มเข้ามาเยอะแยะมากมาย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายและสามารถทำอะไรได้มากขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ส่งผลให้นักพัฒนาต้องหมั่นปรับตัวตามอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้แอปของผู้ที่หลงเข้ามาอ่านนั้นยังคงใช้งานได้ปกติสุข