บทความวันนี้ขอผ่อนคลายจากโค้ดกันบ้าง โดยเจ้าของบล็อกขอหยิบเจ้าแผ่นพับที่เจ้าของบล็อกได้จากงาน Google Developer Summit มาเขียนเป็นบทความให้ได้อ่านกันเล่นๆ

แผ่นพับที่ว่านี้จะเป็นการแนะนำ 10 วิธีที่ควรทำและ 10 วิธีที่ไม่ควรทำในการพัฒนาแอปแอนดรอยด์ขึ้น Google Play ซึ่งเจ้าของบล็อกคิดว่าเป็นเรื่องที่นักพัฒนาควรจะรู้ติดตัวไว้บ้าง เวลาที่ทำแอปก็ให้ใช้คำแนะนำเหล่านี้เป็นแนวทางในการพัฒนาเพื่อให้แอปที่ออกมานั้นประสบผลสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น

  1. Optimize design and navigation for Android.
  2. Utilize multi-screen opportunities.
  3. Use Google+ login to obtain more user metrics.
  4. Minimize the size of your APK to ensure downloads.
  5. Make sure that your server is robust and scalable.
  6. Run Alpha / Beta tests before launch.
  7. Test your app icon design.
  8. Elaborate the detail page with movies and screen captures.
  9. Consider user reviews.
  10. Deepen engagement with users.
  1. Don’t infringe on the intellectual property right of others.
  2. Don’t use sexually explicit or erotic content, images, titles and descriptions.
  3. Don’t use confidential information without user’s permission.
  4. Don’t link to other app stores.
  5. Don’t bypass Google Wallet for in-app purchases.
  6. Don’t use irrelevant, misleading, or excessive keywords in apps descriptions, titles or metadata.
  7. Don’t use other product’s branding or names at the start of your app title without permission.
  8. Don’t engage in fraudulent install or review campaigns by manipulating ratings or incentives.
  9. Don’t contain false or misleading information.
  10. Don’t abuse the Google Play logo.

สำหรับ 10 DOs & 10 DON’Ts นั้นจะถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทด้วยกันคือ Design, Development และ Distribution ซึ่งถ้าจำกันได้ มันคือหัวข้อเมนูใน Android Developer นั่นเอง โดยจะเอาแต่ละข้อของ DOs & DON’Ts มาเรียงตามลำดับความสำคัญเพื่อให้ดูเป็นขั้นเป็นตอน

Design

DO — 1. Optimize design and navigation for Android.

พยายามปรับปรุงดีไซน์ภายในตัวแอปอยู่เสมอ เช่น ปรับให้เป็น Material Design เป็นต้น เพื่อให้แอปมีหน้าตารูปแบบสวยงามตามสมัย

DO — 2. Utilize multi-screen opportunities.

ทำแอปให้รองรับกับหน้าจออุปกรณ์ที่หลากหลาย เพื่อให้แอปสามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ทุกแบบ

DON’T — 1. Don’t infringe on the intellectual property right of others.

อย่าละเมิดสิทธิหรือทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น หรือก็คือแอปไม่ควรมีเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น

DON’T — 2. Don’t use sexually explicit or erotic content, images, titles and descriptions.

อย่าใช้เนื้อหาเกี่ยวกับทางเพศหรือลามก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาภายในแอป รูปภาพ หัวข้อ หรือคำอธิบายในหน้าดาวน์โหลดแอป

Development

DO — 3. Use Google+ login to obtain more user metrics.

ควรใช้ Google+ ในการล็อกอินระบบภายในแอปเพื่อดึงข้อมูลของผู้ใช้งาน (แต่นิยม Facebook มากกว่า)

DO — 4. Minimize the size of your APK to ensure downloads.

พยายามทำไฟล์ APK ให้มีขนาดเล็กที่สุด เพื่อที่ผู้ใช้จะได้ดาวน์โหลดได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวกินพื้นที่เยอะ หรือใช้เวลาดาวน์โหลดนาน เพราะจะทำให้ผู้ใช้ไม่อยากดาวน์โหลดแอปได้

DO — 5. Make sure that your server is robust and scalable.

ต้องมั่นใจว่าเซิฟเวอร์ที่ใช้เชื่อมต่อกับแอปนั้นดีพอ รองรับผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา และสามารถขยายได้ง่ายเมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น

DO — 6. Run Alpha / Beta tests before launch.

ควรปล่อยให้ดาวน์โหลดแบบ Alpha หรือ Beta เพื่อทดสอบการทำงาน ก่อนที่จะปล่อยให้ดาวน์โหลดใช้งานจริง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด

DON’T — 3. Don’t use confidential information without user’s permission.

อย่าแอบใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

อย่าทำแอปให้ไปเปิด App Store ตัวอื่นๆนอกเหนือจาก Google Play เพื่อดาวน์โหลดแอป (อันนี้เป็นข้อกำหนดของ Google Play เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ไปโหลดแอปจาก 3rd Party App Store)

DON’T — 5. Don’t bypass Google Wallet for in-app purchases.

สำหรับระบบ IAP อย่าเรียกใช้งาน Google Wallet โดยตรง ให้เรียกผ่าน In-App Billing API ที่มีให้ใช้งาน

Distribution

DO — 7. Test your app icon design.

ออกแบบไอคอนแอปให้เหมาะสมและเด่นชัดเมื่ออยู่บน Google Play เพื่อที่จะได้สะดุดตาผู้ใช้งาน

DO — 8. Elaborate the detail page with movies and screen captures.

ควรอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับตัวแอปให้ละเอียดด้วยภาพหน้าจอเวลาใช้งานและวีดีโอบน Google Play เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูแล้วเข้าใจเกี่ยวกับแอปนั้นๆได้ทันที โดยไม่ต้องกดดาวน์โหลดก่อน

DO — 9. Consider user reviews.

ความคิดเห็นของผู้ใช้เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นควรใส่ใจมัน เพราะมันคือ Feedback ที่ดีที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาแอปได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

DO — 10. Deepen engagement with users.

พยายามทำให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานแอปบ่อยๆ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปเยอะก็ตาม แต่ถ้าตัวแอปไม่น่าสนใจและไม่ทำให้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไร ดังนั้นควรหาทางทำให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานแอปบ่อยๆ

DON’T — 6. Don’t use irrelevant, misleading, or excessive keywords in apps descriptions, titles or metadata.

อย่าใช้ข้อมูลหรือคีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้อง/ทำให้เข้าใจผิดในคำอธิบายเกี่ยวกับตัวแอป รวมไปถึงชื่อของแอปและข้อมูลที่ระบุในแอปนั้นๆ

DON’T — 7. Don’t use other product’s branding or names at the start of your app title without permission.

ห้ามใช้ชื่อแอปที่มีชื่อแบรนด์ของคนอื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่ในนั้น ถ้าจะใช้ก็ต้องขออนุญาตจากเจ้าของชื่อแบรนด์นั้นๆก่อน

DON’T — 8. Don’t engage in fraudulent install or review campaigns by manipulating ratings or incentives.

อย่าหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปหรือแสดงความคิดเห็นโดยใช้ผลประโยชน์มาหลอกล่อ เพื่อไม่ให้เกิดการปั้มยอดดาวน์โหลดหรือยอดรีวิวมากเกินที่ควรจะเป็น

DON’T — 9. Don’t contain false or misleading information.

ห้ามใส่ข้อมูลที่ผิดหรือทำให้ผู้ใช้เกิดการเข้าใจผิด

DON’T — 10. Don’t abuse the Google Play logo.

ห้ามนำโลโก้ Google Play ไปใช้งานในทางที่ผิด

ทั้ง 10 ข้อที่ควรทำและไม่ควรทำนี้เป็นคำแนะนำจากทาง Google Play ที่อยากให้นักพัฒนาทำตามเพื่อที่ว่าจะได้เผยแพร่แอปอยู่บน Google Play ได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกลบทิ้งหรือว่าถูกแบน Account และบางข้อก็จะเห็นว่าเป็นเหตุผลในเรื่อง Policy ของทาง Google Play ควรทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นทางที่ดีก็ควรตรวจสอบทั้ง 20 ข้อนี้ให้ดีๆก่อนจะส่งแอปขึ้น Google Play นะครับ