ผู้ที่หลงเข้ามาอ่านหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อคอร์สเรียนออนไลน์กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Udemy, Coursera หรือ Codecademy ซึ่งเว็ปพวกนี้เป็นแหล่งศึกษาออนไลน์สำหรับโปรแกรมเมอร์ทั่วโลก และที่เจ้าของบล็อกจะหยิบมาพูดถึงในบทความนี้ก็คือ Udacity

เพราะว่า Udacity เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ที่มีความน่าสนใจมากกว่าหลายๆแห่ง โดยเฉพาะคอร์สเรียนออนไลน์สำหรับนักพัฒนาแอนดรอยด์

ไม่ใช่แค่คอร์สเรียนออนไลน์ทั่วไป

ปกติแล้วถ้าพูดถึงคอร์สเรียนออนไลน์ ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงการนั่งดูวีดีโอที่ให้ความรู้สึกน่าเบื่อๆ โดยเฉพาะวีดีโอสอนเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมที่มักจะมาอัดภาพหน้าจอ หรือถ่ายหน้าตัวเองด้วย แล้วนั่งพิมพ์โค๊ดให้ดู แล้วอธิบายๆๆๆ แล้วคนดูก็ต้องพิมพ์ตาม จบ

แต่ที่ Udacity ไม่ได้น่าเบื่อแบบนั้น

เลิกพูดถึงการเรียนแบบบ้านๆที่เห็นแต่หน้าจอโปรแกรมตั้งแต่ต้นวีดีโอจนจบได้เลย เพราะวีดีโอของคอร์สเรียนที่นี่ถูกออกแบบมาให้ไม่น่าเบื่อ มีภาพประกอบการอธิบายเพื่อให้ผู้เรียนเห็นภาพได้ง่ายขึ้น มีการถ่ายทำวีดีโอที่ดี รวมไปถึงมีโจทย์ปัญหาให้ทำระหว่างนั่งเรียนด้วย

ทำไมคอร์สเรียนของ Udacity ถึงเหมาะกับนักพัฒนาแอนดรอยด์

คอร์สเรียนสำหรับนักพัฒนาแอนดรอยด์นั้นถูกสร้างขึ้น โดยร่วมมือกับทาง Google โดยตรง รวมไปถึงคนสอนในวีดีโอก็เป็นทีมงาน Google เช่นกัน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าเนื้อหาที่จะได้เรียนนั่นมีความถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง (Best Practice)

สำหรับหลักสูตรที่มีก็จะมีเยอะแยะมากมายสำหรับนักพัฒนาแอนดรอยด์

คอร์สเรียนแอนดรอยด์เป็นยังไงบ้าง

ในการเรียนของที่นี่จะเป็นแบบผสม คือเรียนรู้จากวีดีโอผสมกับการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ในแต่ละบทเรียนจะมีแหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้เรียนทำความเข้าใจด้วยตัวเองในภายหลัง จะไม่สอนเรื่องพื้นฐานที่ไม่จำเป็น เพราะผู้เรียนจะต้องไปศึกษาหาความรู้เอง แล้วมาเรียนต่อ

ด้วยวิธีแบบนี้จะทำให้ผู้เรียนไม่ได้แค่เรียนจบแล้วทำเป็นแค่ตามวีดีโอ แต่จะรู้วิธีการหาข้อมูล การเรียนรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถต่อยอดการเรียนรู้ไปได้อีกมาก

ถึงแม้ว่าอาจจะมี Learning Curve ที่สูงสำหรับผู้ที่หลงเข้ามาอ่านหลายๆคน แต่ระหว่างเรียนก็จะมีหน้าต่างแชทเพื่อให้คุยกันระหว่างผู้เรียนด้วยกัน และมีทีมงาน Udacity คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาอยู่ด้วย และวีดีโอในแต่ละบทเรียนก็มีให้ดาวน์โหลดฟรีด้วย เผื่ออยากจะโหลดไปดูบนเครื่องตัวเอง (มีไฟล์ Subtitle แยกให้ด้วย)

สำหรับโจทย์ปัญหาก็จะเป็นลักษณะการพิมพ์ลงในช่องคำตอบเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ แต่เพื่อฝึกทักษะของผู้เรียนเอง ถ้านึกไม่ออกก็กดข้ามไปดูเฉลยที่มีการอธิบายคำตอบให้ด้วย

เรียนจบคอร์สแล้วได้อะไร?

บางคอร์สเรียนจะมีการบ้านให้ทำโปรเจคแอปซักตัว ซึ่งผู้เรียนจะต้องเอาความรู้จากที่เรียนมาสร้างเป็นแอปหนึ่งตัว (ถ้านึกไม่ออก ก็มีแอปที่แนะนำให้) โดยมีเงื่อนไขที่กำหนดให้ว่าแอปนั้นๆต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เมื่อทำเสร็จแล้วก็ส่ง แล้วก็รอคิวเข้ารับการสัมภาษณ์ (เค้าจะเรียกว่า Exit Interview)

ผู้เรียนจะถูกสัมภาษณ์ทาง Google Hangout ซึ่งต้องนัดคิวไว้ การสัมภาษณ์ก็จะถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เรียน และอธิบายการบ้านที่เราทำ และแน่นอนว่าต้องพูดอังกฤษจ้า (เจ้าของบล็อกพูดไม่เก่ง เค้าก็ช่วยเหลือเต็มที่)

เมื่อสอบเสร็จ ก็จะได้รับใบ Certificate เพื่อเป็นหลักฐานว่าผู้เรียนได้สำเร็จหลักสูตรนั้นๆแล้ว แต่หลายๆหลักสูตรจะไม่มีใบ Certificate ให้ และไม่มีการบ้าน เพราะงั้นก็ไม่ต้องสัมภาษณ์ เพราะไม่ได้ใบ Certificate

หลักสูตรที่ได้ใบ Certificate จะมีแค่บางหลักสูตรเท่านั้น เมื่อได้มาแล้วก็เอาไปใส่ใน Linkedin เพื่อหางานได้เลยนะเออ จริงๆจะเอาไปใส่ใน Resume ก็ยังได้ (น่าจะมีผลดีกับต่างประเทศซะมากกว่า เพราะในบ้านเราไม่ค่อยรู้จักหลักสูตรที่นี่ซักเท่าไร)

Nanodegree หลักสูตรระยะยาว จบแล้วทำงานได้ทันที

ทาง Udacity ได้จัดตั้งหลักสูตร Nanodegree ขึ้นมา เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนหลักสูตรต่างๆที่ทาง Udacity จัดไว้ให้ และเมื่อเรียนจบแล้วก็พร้อมที่จะทำงานในด้านนั้นๆได้ทันที

และล่าสุดในงาน Google I/O 2015 ก็ได้ประกาศว่า ได้เปิดหลักสูตร Nanodegree กับทาง Udacity เรียบร้อย แล้ว ซึ่งเนื้อหาใน Nanodegree ก็จะเปิดให้เรียนเป็นรอบๆ ต่างจากหลักสูตรปกติ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ $200 ซึ่งหลักสูตรนี้จะใช้เวลานาน 6 ถึง 10 เดือน (อย่างน้อยสัปดาห์ละ 10 ชั่วโมง) ซึ่งหลักสูตรนี้จะได้ใบ Nanodegree จากทาง Udacity และทาง Google

ค่าเรียนแพงมั้ย?

ถ้าไม่รวมหลักสูตร Nanodegree ก็ฟรีครับ เพราะเป็นหลักสูตรที่ทาง Google อยากจะผลักดันให้กับนักพัฒนาแอนดรอยด์ ซึ่งจะมีแค่หลักสูตรเดียวเท่านั้นที่ต้องจ่ายค่าเรียนเดือนละ $199 ซึ่งก็คือหลักสูตร Developing Android Apps : Android Fundamentals แต่ก็ให้เรียนกันฟรีๆก่อนสองสัปดาห์เต็มๆ

สำหรับ $199 จะบอกว่าเป็นค่าใบ Certificate ก็ว่าได้ เพราะว่าผู้เรียนสามารถทุ่มเวลาเรียนให้จบหลักสูตรนี้ได้ในสองสัปดาห์ แต่ถ้าอยากจะส่งการบ้านเพื่อเอาใบ Certificate ก็ต้องจ่ายค่าเรียนก่อนถึงจะส่งการบ้านได้

แนะนำผู้ที่หลงเข้ามาอ่านที่อยากได้ใบ Certificate ในหลักสูตรปกติ ให้เรียนให้หมดในสองสัปดาห์ หลังจากนั้นก็ยังไม่ต้องชำระค่าเรียนก็ได้ ให้ไปทำการบ้านให้เสร็จก่อน เมื่อพร้อมจะส่งแล้วก็ค่อยชำระค่าเรียนแล้วส่งการบ้าน ก็จะช่วยให้เสียค่าเรียนแค่เดือนเดียวเท่านั้น หลังจากส่งการบ้านแล้ว ถ้าระหว่างการสัมภาษณ์มีการล่าช้าเกินหนึ่งเดือน ก็จะไม่ต้องชำระเงินเพิ่มสำหรับเดือนถัดไปแล้ว

ข้อดี

  • เนื้อหาในการสอนออกแบบมาได้ดี วีดีโอการสอนมีภาพอธิบายตลอด ดูแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  • ไม่ได้ป้อนแต่เนื้อหาให้กับผู้เรียนอย่างเดียว แต่ผู้เรียนต้องค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมเองด้วย
  • ได้ใบ Certificate จากหลักสูตร
  • หลักสูตรส่วนใหญ่เรียนฟรี
  • เนื้อหาในหลักสูตรมีการอัพเดทใหม่อยู่ตลอด
  • บางหลักสูตร ผู้สอนเป็นพนักงานจาก Google มาสอนเอง
  • ถ้าได้ Nanodegree ก็พร้อมทำงานเป็นนักพัฒนาแอนดรอยด์ได้เลย

ข้อเสีย

  • วีดีโอมี Subtitle มีภาษาอังกฤษ, จีน, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, รัสเซีย และสเปน แต่ไม่มีภาษาไทยยยยยย
  • ตอนสัมภาษณ์ก็ต้องคุยกับคนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษษษษษษ
  • หลักสูตร Nanodegree ต้องจ่ายค่าเรียนสูงไปหน่อย….จ่ายไม่ไหว…

ป่ะ ไปเรียน Udacity กันเถอะ www.udacity.com